
หลังจากที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับทุกข์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งทุกข์ประจำ (สภาวทุกข์) และทุกข์จร (ปกิณณกทุกข์) แล้ว พระพุทธองค์ได้ทรงสรุปรวบยอดความจริงข้อที่ 1 ทั้งหมดไว้ในประโยคเดียวที่ลึกซึ้งและทรงพลังที่สุดว่า "สังขิตเตน ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา" ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า "โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นตัวทุกข์" ประโยคนี้คือหัวใจสำคัญของการทำความเข้าใจเรื่องทุกข์อย่างแท้จริง และเป็นสะพานที่จะเชื่อมเราไปสู่การค้นหาสาเหตุแห่งทุกข์ในอริยสัจข้อต่อไป
หลายคนอาจรู้สึกว่าคำว่า "อุปาทานขันธ์ 5" เป็นศัพท์ธรรมะที่เข้าใจยากและไกลตัว แต่แท้จริงแล้วมันคือสิ่งที่เราทุกคนแบกอยู่และเกี่ยวข้องด้วยตลอดเวลา มันคือองค์ประกอบของสิ่งที่เรารวบเรียกกันว่า "ตัวเรา" หรือ "ชีวิต" นั่นเอง การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะทำให้เราเห็นว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่โลกรอบตัว แต่อยู่ที่ "การยึดมั่นถือมั่น" ในตัวเราเองต่างหาก
ก่อนจะเข้าใจคำว่า "อุปาทานขันธ์" เราต้องรู้จัก "ขันธ์ 5" เสียก่อน ขันธ์ (Khandha) แปลว่า กอง, หมู่, หรือส่วนประกอบ พระพุทธองค์ทรงชี้ว่า ชีวิตของคนเรานี้ประกอบขึ้นจากองค์ประกอบ 5 ส่วนที่ทำงานร่วมกัน ไม่ได้มี "ตัวตน" ที่แท้จริงเป็นแก่นสารอยู่เบื้องหลังเลย ขันธ์ 5 ประกอบด้วย:
ตัวขันธ์ 5 เองนั้นเป็นเพียงสภาวะธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย มันไม่ได้เป็นทุกข์ในตัวเอง แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมี "อุปาทาน" เข้าไปเกี่ยวข้อง อุปาทาน คือ ความยึดมั่นถือมั่นอย่างเหนียวแน่น ว่าขันธ์ 5 เหล่านี้คือ "ตัวเรา" คือ "ของเรา" คือ "อัตตาตัวตนที่แท้จริงของเรา"
การแบกขันธ์ 5 ที่หนักอึ้งอยู่แล้วก็ลำบากพอแล้ว แต่การเพิ่ม "อุปาทาน" หรือความยึดมั่นเข้าไปอีก ก็เหมือนกับการแบกของหนักแล้วยังผูกติดตัวเองเข้ากับของนั้นอย่างแน่นหนา ไม่ยอมปล่อยวาง เมื่อของนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ เราจึงต้องเจ็บปวดและเป็นทุกข์อย่างแสนสาหัส นี่คือความหมายที่แท้จริงของ "โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นตัวทุกข์"
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า ทุกข์ทั้งปวงที่เราประสบอยู่ สรุปลงที่การยึดมั่นในขันธ์ 5 นี่เอง คำถามสำคัญต่อไปคือ แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เกิด "อุปาทาน" หรือความยึดมั่นนี้ขึ้นมา? ซึ่งคำตอบนั้นอยู่ในอริยสัจข้อที่ 2 คือ "สมุทัย" ที่เราจะศึกษาในบทความต่อไป