จาก "เปลือกนอก" สู่ "แก่นแท้" ค้นหาคุณค่าที่กาลเวลาทำอะไรไม่ได้
จาก "เปลือกนอก" สู่ "แก่นแท้" ค้นหาคุณค่าที่กาลเวลาทำอะไรไม่ได้
เมื่อบทความที่แล้วเราได้พูดถึงภาพลวงตาของความสวยความหล่อภายนอกที่ผูกติดอยู่กับเปลือก และเป็นสิ่งที่ต้องเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา คำถามสำคัญที่ตามมาคือ "แล้วอะไรคือสิ่งที่จะคงอยู่?" หากคุณค่าของเราไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี แล้วเราจะค้นหาคุณค่าที่แท้จริงจากที่ไหน? คำตอบนั้นซ่อนอยู่ "ภายใน" ตัวเราทุกคน รอเพียงแค่เราจะหันกลับมามองและเริ่มต้นเพาะบ่มมันขึ้นมา
สมบัติที่แท้จริง: อริยทรัพย์ 7 ประการ
ในทางธรรมะ มีคำสอนเรื่อง อริยทรัพย์ ซึ่งหมายถึง ทรัพย์อันประเสริฐ เป็นสมบัติภายในที่ติดตัวเราไปได้ทุกภพทุกชาติ และเป็นสิ่งที่กาลเวลาหรือความเสื่อมทางกายภาพไม่สามารถทำลายได้ เปรียบเสมือน "แก่นแท้" ที่อยู่ลึกลงไปกว่า "เปลือกนอก" สำหรับคนทำงานและคนรุ่นใหม่ เราสามารถนำหลักอริยทรัพย์มาปรับใช้เพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนได้ดังนี้
- ศรัทธา (ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม): ไม่ใช่ความเชื่องมงาย แต่คือความเชื่อมั่นในการทำความดี เชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม และเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ในโลกการทำงานที่แข่งขันสูง ศรัทธาคือเข็มทิศที่ทำให้เราไม่หลงทางไปกับวิธีการที่ไม่ถูกต้อง
- ศีล (ความประพฤติที่ดีงาม): คือการมีวินัยในตนเอง การรักษากายและวาจาให้ปกติเรียบร้อย ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ในชีวิตประจำวันคือความรับผิดชอบต่องาน การรักษาคำพูด การเคารพสิทธิของเพื่อนร่วมงาน สิ่งเหล่านี้สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ที่ดี
- หิริ (ความละอายต่อบาป): คือความรู้สึก "อาย" ที่จะทำในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง แม้จะไม่มีใครเห็นก็ตาม เช่น ไม่นำผลงานคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ไม่นินทาว่าร้ายลับหลัง มันคือ "เบรก" ที่ป้องกันไม่ให้เราทำผิด
- โอตตัปปะ (ความเกรงกลัวต่อผลของบาป): คือความ "กลัว" ต่อผลที่จะตามมาจากการกระทำที่ไม่ดี ไม่ใช่ความกลัวอย่างไร้เหตุผล แต่คือการตระหนักว่าทุกการกระทำมีผลตามมาเสมอ ทำให้เราคิดรอบคอบก่อนจะทำอะไรลงไป
ปลูกต้นไม้แห่งคุณค่าภายใน
อริยทรัพย์อีก 3 ประการที่เหลือคือ พาหุสัจจะ (การศึกษาหาความรู้), จาคะ (ความเสียสละ การแบ่งปัน) และ ปัญญา (ความรอบรู้ เข้าใจความจริงของชีวิต) เราสามารถเริ่มต้น "ปลูก" คุณสมบัติเหล่านี้ให้งอกงามในใจได้ ผ่านการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
- ฝึกเป็นผู้ฟังที่ดีและเรียนรู้เสมอ (พาหุสัจจะ): ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารท่วมท้น การตั้งใจฟังและเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิต คือการเพิ่มพูนปัญญาและความสามารถให้กับตนเอง
- ฝึกการให้เล็กๆ น้อยๆ (จาคะ): การ "ให้" ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทองเสมอไป การให้รอยยิ้ม ให้คำแนะนำดีๆ กับเพื่อนร่วมงาน การสละเวลาช่วยเหลืองานเล็กๆ น้อยๆ หรือการแบ่งปันความรู้ สิ่งเหล่านี้ช่วยลดความยึดติดในตัวตน (อัตตา) และสร้างสังคมการทำงานที่ดี
- ฝึกเจริญสติเพื่อสร้างปัญญา (ปัญญา): การฝึกสติ เช่น การรู้ลมหายใจ การสังเกตความคิดและความรู้สึกของตัวเอง จะทำให้เราเท่าทันอารมณ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อมีสติ ปัญญาก็จะเกิด เราจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้อย่างสุขุมและมองเห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง
คุณค่าที่มาจากรูปลักษณ์ภายนอกนั้นเหมือนดอกไม้ไฟที่สวยงามแต่ก็ดับไปอย่างรวดเร็ว แต่คุณค่าที่มาจาก "อริยทรัพย์" หรือคุณงามความดีภายในนั้น เปรียบเสมือนรากแก้วของต้นไม้ใหญ่ที่หยั่งลึกลงในดิน แม้พายุลมแรงแห่งความเปลี่ยนแปลงจะพัดผ่าน หรือกาลเวลาจะทำให้เปลือกไม้ภายนอกดูเก่าลง แต่ต้นไม้ต้นนั้นก็ยังคงยืนหยัดได้อย่างสง่างามและมั่นคง นี่คือคุณค่าที่แท้จริงที่ทุกคนสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยตนเอง